fbpx

By

Narakorn Pradubtong
 ร้านน้ำเต้าหู้ ย่านเยาวราช (ร้านน้ำเต้าหู้เจ้าดัง) หลังจากที่เกิดวิกฤตกาลโรคระบาดโควิด-19 (Covid-19) จนทำให้เศรฐกิจบ้านเราซบเซาไปไม่น้อย ทาง LifePro Travel เองก็ได้รับผลกระทบตรงนั้นด้วย นั่นก็คือไม่สามารถออกไปไหนได้ ทั้งนี้เมื่อพอบ้านเราได้เริ่มผ่อนปรนกับสถานที่ได้บ้างหน่อย สิ่งที่อยากจะลองไปเที่ยวดูเป็นที่แรกเลยก็คือ เยาวราช เพราะเป็นสถานที่ใกล้บ้านพักของผู้เขียนที่สุดแล้ว โดยสถานที่ที่เราจะไปอาจจะไม่ได้มองเป็นมุมกว้างว่าจะต้องเที่ยวทั้งเยาวราช แต่จะมุ่งตรงไปหายังร้านๆหนึ่งที่กลายเป็นตำนานในย่านถิ่นเยาวราชไปซะแล้ว นั่นก็คือ ร้านน้ำเต้าหู้ เยาวราช – ร้านน้ำเต้าหู้เจ้าดัง ในซอยก่อนตัดเขาคลองถมไปเสาชิงช้านั่นเอง  ร้านน้ำเต้าหู้ เยาวราช อยู่ตรงไหน หากคุณเคยวกไปที่แถวเสาชิงช้า สิ่งที่จะอยู่ในใจคุณเลยก็คงจะเป็นร้านของหวานอะไรไปไม่ได้นอกจาก ร้านน้ำเต้าหู้ Nam Dao Huu – น้ำเต้าหู้ ร้านนมขนมปังปิ้งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในระแวกใจกลางเมือง แต่สำหรับในย่านถิ่นเยาวราช ร้านที่ถือเป็นสถานที่เล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอร่อยที่หอมหวาน ปนไปกับกลิ่นความสดชื่น ก็คงต้องยกให้กับร้านน้ำเต้าหู้ ที่ตกแต่งไปด้วยสไตล์ความเป็นไทยจีนได้อย่างลงตัว ร้านน้ำเต้าหู้ ได้รับการันตรีจากกลุ่มวงในและเว็บไซต์หลายๆเว็บ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเย็นและหอมหวานของน้ำเต้าหู้โบราณที่นำมาปรับแต่งให้เข้ากับความชอบของคนรุ่นใหม่ ถึงแม้ว่าทางผู้เขียนจะไม่ค่อยชอบน้ำเต้าหู้มาก แต่พอลองสัมผัสแล้วก็อดที่จะกลับมากินอีกไม่ได้ สไตล์การตกแต่งร้านน้ำเต้าหู้ เยาวราช ร้านจะตกแต่งไปด้วยภาพวาดวิถีชีวิตสมัยก่อน พร้อมด้วยโต๊ะไม้รับรองที่ดูเป็นสไตล์เก่าแก่รุ่นพ่อ แต่ด้านในก็ยังคงความโมเดิลด้วยการประดับผนังปูนขาวและเย็นฉ่ำด้วยแอร์ขนาดย่อม ไม่ว่าคุณจะร้อนตับแตกจากภายนอกมาขนาดไหน แต่เมื่อเข้ามาในร้านเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องบรรยากาศภายในเลยว่าจะร้อนจนอยู่ไม่ได้ แม้ว่าร้านจะเป็นแนวสไตล์แบบโอเพ่นก็ตาม ภายนอกจะมีปาท่องโก๋เลิศรสมาให้คุณเลือกจับจ่ายซึ่งที่นี่จะไม่ค่อยอมน้ำมันเหมือนที่อื่น...
Read More
ใกล้เข้าสู่เทศกาล วันวาเลนไทน์ ทั้งที งานนี้คุณมีของที่จะเอาไปให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง สำหรับใครที่มีคู่หรือกำลังเริ่มต้นชีวิตความรักที่หอมหวาน เราขอแสดงความยินดีกับคู่ของพวกคุณด้วย เนื่องจากใกล้เข้าสู่วันวาเลนไทน์แล้ว แต่สำหรับใครคนไหนที่ยังไม่มีคู่และไม่รู้จะทำอะไร เราก็ได้นำประวัติของที่มาวันวาเลนไทน์มาฝากกับท่านผู้ชมกันครับ โดยทั้งนี้หลายคนอาจจะเคยรู้กันมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามเราก็ได้นำเอาประวัติย่อโดยสังเขปมาให้คุณได้นำกลับมาอ่านเพื่อความบันเทิงกันอีกครั้ง เทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือที่เราเรียกกันว่า Valentine’s Day ในตอนแรกยังไม่ถูกจัดตั้งให้เป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เนื่องจากเทศกาลนี้ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในยุคจักรพรรดิโรมัน โดยในสมัยนั้นยังเป็นยุคสมัยที่ปกครองโดย จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 แห่งกรุงโรม ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นยุคสมัยแห่งสงครามและการชิงอำนาจ พลหทารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นกำลังพลไปสู่รบ แต่ทว่าแล้วจักรพรรดิคลอดิอัสกลับเห็นว่า ในกรุงโรมไม่มีใครสนใจที่จะสมัครเข้าเป็นทหาร เนื่องด้วยจากพวกเขาไม่อยากไปรบ เพราะจะต้องจากคนที่รักไปนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ใครจัดพิธีหมั้นหรือแต่งงานโดยเด็ดขาด เพื่อที่จะให้ชายชาตรีทุกคนสนใจมาเกณฑ์ทหาร สร้างความเดือดร้อนและเสียใจต่อเหล่าประชาชนอย่างมาก แต่ในเรื่องร้ายก็ยังคงมีเรื่องดีอยู่บ้าง เมื่อนักบุญคนหนึ่งชื่อ เซนต์ หลุยส์ วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส เล็งเห็นว่าเรื่องที่กษัตริย์ออกคำสั่งเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดหลักศีลธรรมมนุษย์ เขาจึงเริ่มหาทางแอบจัดพิธีแต่งงานกับคู่รักที่อยากแต่งในโบสถ์ของเขา โดยร่วมมือกับเซนต์มาริอัส ในการช่วยจัดพิธี พวกเขาจัดพิธีแต่งงานไปมากกว่า 100 คู่ จนในที่สุด เขาก็ถูกจับได้ในเวลาต่อมาและถูกคุมขังเอาไว้เพื่อรอวันประหาร เซนต์ วาเลนไทน์ ถูกจองจำอยู่ในคุกเพื่อรอวันตาย แต่ในขณะนั้นเขาก็กลับไปตกหลุมรักกับหญิงสาวซึ่งเป็นลูกผู้คุมขังชื่อว่า จูเลีย เข้า ทำให้ทั้งสองได้รู้จักและรักกัน...
Read More
จากเหตุการณ์ไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดอยู่ในเมืองอู่ฮัน ประเทศจีน นำพาให้ผู้คนติดเชื้อกันนับพัน (และอีกหลายจำนวนที่ยังไม่เปิดเผย) แต่ทั้งนี้ หลายคนก็ยังไม่มีใครรู้ได้ว่า ก่อนหน้าที่เมืองอู่ฮั่นจะได้รับการติดเชื้อและแพร่ระบาดไปทั่วจนกลายเป็นเมืองร้างขนาดนี้ เมืองอู่ฮั่นมีความสวยงามและความตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวยังไงบ้าง เราไปชมกันครับ 1. เมืองอู่ฮั่น เป็นเมืองในรัฐมลฑลหูเป่ย มีประวัติยาวนานและเก่าแก่มามากกว่า 3,500 ปีแล้ว เป็นเมืองที่มีเส้นทางผ่านของแม่น้ำสองสาย นั่นคือ แยงซีเกียง และ ฮั่นซุย มีประชากรทั้งหมด 11 ล้านคน ผู้คนในที่นี้อาศัยกันด้วยความเรียบง่าย และมองเห็นรูปแบบการกินอาหารต่างๆที่หลากหลายเป็นเรื่องธรรมดา จึงไม่แปลกที่เมืองอู่ฮั่น จะติดอันดับเมืองที่มีการเปิดพิศดารค่อนข้างบ่อย เพราะมีหลายคนนิยมกินอาหารจากสัตว์แปลกๆ เช่น ค้างคาว หรือ งู ที่กลายมาเป็นสาเหตุและพาหะนำเชื้อไวรัสโคโรน่ามาสู่คน ทั้งนี้ เราลองไปดูกันครับว่าในเมืองอู่ฮั่น เคยมีสถานที่ไหนน่าสนใจอยู่บ้าง 2. วัดกุ้ยหยวน เป็นวัดที่มีผู้คนไปกราบสักการะเป็นจำนวนมาก ในวัดจะมีเสาหลักที่เป็นแหล่งดึงดูดอันสวยงามมากๆ นั่นก็คือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และนอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าต่างๆมากมายภายในวัดที่เป็นแหล่งบูชาตามหลักศาสนา ซึ่งผู้คนในอู่ฮันชอบแวะเวียนมาถ่ายรูปและพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่กันมากมาย 3. หอ หวง เห โหลว หรือภาษาไทยคือ หอนกกระเรียน เป็นสถานที่ๆสวยงามตามสถาปัตยกรรมจีนโบราณ เนื่องจากเป็นสถานที่ตามตำนาน ที่มีนักพรตเดินทางมาที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เจ้าร้านผู้ซึ่งใจดีจึงเลี้ยงเหล้านักพรตคนนั้น...
Read More
ใกล้เข้าสู่ วันตรุษจีน หลายคนก็คงจะตื่นเต้นที่จะได้รวมญาติพี่น้องและทานอาหารร่วมกัน หรือไม่ก็จับมือกันกับแฟนไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดจีนต่างๆของไทย ซึ่งในแต่ละครั้งที่เราไปเที่ยวหรือพบเจอญาติพี่น้อง เราก็คงจะหนีไม่พ้นขนมในการไหว้สักการะบรรพบุรุษหรือองค์เทพเจ้าต่างๆมากมาย โดยขนมเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เอาไว้ไหว้บูชาองค์เทพของจีน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อกวนอู เพื่อเป็นโชคลาภและสิริมงคลตามความเชื่อของจีนมาช้านาน แต่หลายคนรู้บ้างหรือไม่ว่า ขนมต่างๆเหล่านี้นั้น มีความหมายในการไหว้สักการะอย่างไรบ้าง และเสริมโชคลาภอย่างไรบ้าง วันนี้เราไปชมกันครับ 1. ขนมเทียน ขนมเทียน เป็นขนมคู่บ้านคู่เมืองของเรามาแต่อดีต แต่รากเหง้าของมันมาจากจีน ก่อนจะเผยแพร่อิทธิพลมายังไทย การไหว้ขนมเทียน มีความหมายนัยยะถึงความหวานชื่นและการมีชีวิตที่ราบรื่น เพื่อทำให้การทำงานหรือทำอะไรสักอย่าง ราบรื่นไปโดยปริยาย 2. ขนมถ้วยฟู ขนมถ้วยฟู เป็นขนมแป้งนุ่มที่หอมนุ่มละมุนลิ้นมากๆ แต่กินมากไม่ได้ จะคอแห้งหิวน้ำซะก่อน การที่เราไหว้ขนมฟูนี้ ความหมายนัยยะก็คือการเสริมสิริมงคลในเรื่องของความเฟื่องฟู เจริญรุ่งเรือง ดั่งเช่นขนมที่มีชื่อว่าถ้วยฟูนั่นเอง 3. ซาลาเปา หลายคนคงจะคุ้นเคยกับขนมซาลาเปาเป็นอย่างดี เพราะเป็นขนมที่หอมนุ่มและมีไส้ที่อร่อย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าซาลาเปาหรือหมั่นโถวดังกล่าวนั้น สามารถใช้สำหรับไหว้เจ้า ซึ่งคำว่าซาลาเปามีรากศัพท์มาจากคำว่า เปาไช้ หรือ หรือความหมายแปลว่าห่อโชค ให้โชค นั่นเอง 4. ขนมเข่ง ขนมเข่ง เป็นขนมสไตล์ไทยผสมจีนได้อย่างลงตัว และมีรสชาติหวานไม่โดด อร่อยมากๆ ความหมายของการไหว้ขนมเข่ง ก็คือจะทำให้ชีวิตหวานชื่น...
Read More
อีกไม่นานก็จะเข้าใกล้วันปีใหม่จีนกันแล้ว งานนี้ใครที่อยากไปเที่ยวกราบสักการะขอพรหรือไหว้องค์เทพของจีนเพื่อสร้างสิริมงคลแล้วล่ะก็ คุณจะต้องไม่พลาด 5 สถานที่อันโด่งดังของไทย ที่ได้รับความนิยมในวันตรุษจีนอย่างแน่นอน โดยวันตรุษจีน เปรียบเสมือนวันรวมญาติพี่น้องชาวจีนหรือตระกูลจีนมากราบไว้บรรพบุรุษและบูชาสักการะองค์เทพที่นับถือ การที่เราออกเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมคุณงามความดีจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่ผ่อนคลายของวัยรุ่นที่ต้องการอยากถ่ายรูปตามสถานที่ฮิตๆกันอย่างมากเลยทีเดียว เราไปดูกันว่าจะมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง 1. วัดมังกรกมลาวาส วัดมังกรกมลาวาส 龍蓮寺 หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ที่เราได้ยินกันติดหูนั่นเอง เป็นวัดสไตล์จีนที่มีวัฒนธรรมจีนอย่างโดดเด่น ถ้าเราไปเที่ยวในวันตรุษจีน ในวัดก็อาจจะมีกิจกรรมหลากหลายมากกว่าวันปกติ แถมยังเป็นวันเสริมสร้างสิริมงคลแก่ตัวเองได้อย่างดีมากอีกด้วย ใครที่ไม่อยากออกไปต่างจังหวัดหรือที่ไกลๆก็ไปกราบไหว้องค์เทพที่นี่กันได้ครับ 2. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ มังกรสวรรค์แห่งเมืองสุพรรณ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนนิยมกันไปมากๆ ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานมังกรสวรรค์ หรือศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี งานนี้ใครที่อยากจะไปก็ต้องลงทุนขับรถไปไกลหน่อย แต่ความสวยงาม ความศักดิ์สิทธิ์และบารมีการกราบไหว้ของผู้คนก็มีไม่แพ้ที่อื่นๆเลยทีเดียว ยิ่งพื้นที่แห่งนี้ที่เคยเป็นเมืองเก่าแก่มาก่อน ก็ยิ่งมีความสวยงามในรูปแบบของตัวสถานที่นั่นเอง จนในปัจจุบันก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก 3. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ 敕賜普頌皇恩寺 เรียกง่ายๆ ก็คือ วัดเล่งเน่ยยี่ อีกสาขาหนึ่ง ที่มาสร้างอยู่ในใจกลางจังหวัดนนทบุรี เรารู้จักในชื่อของวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ 2 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีความเป็นวัฒนธรรมจีนที่มีความผสมผสานเข้ากับไทยสูง อีกทั้งยังมีความสวยงามวิจิตรตระการตา พร้อมเป็นสถานที่เที่ยว ถ่ายรูป สำหรับเหล่าอาม่า...
Read More
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปในแถบคันไซโดยอยากจะผ่านหลายๆเมืองเช่น สึ ยามาโตะ มิเอะ หรือนาโกย่าแล้วล่ะก็ ทุกคนอาจจะต้องนึกถึง ชินคันเซ็น หรือคินเท็ตสึ อย่างสามารถเดินทางไปในหลายๆจังหวัดได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับบุคคลที่ไปลงโอซาก้าแล้วอยากเที่ยวต่อที่นาโกย่า ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งใหญ่ๆที่หันมาใช้บัตรคินเท็ตสึเรียลพาสกันทั้งนั้น โดยในหลายรีวิวที่ผ่านมา มีการบอกรูปแบบการใช้ไว้อย่างมากมาย แต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ถึงข้อดีข้อเสียของมันว่า เป็นอย่างไร วันนี้ทาง LifeProTravel ได้ไปลองใช้จริงมาแล้วครับ เรียกได้ว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงเลยทีเดียว จากเส้นทางนาโกย่าไปลงโอซาก้า และจะมาแชร์ทางเลือกให้คุณทั้งข้อดีข้อเสียเพื่อให้คนที่จะไปเที่ยว ได้พิจารณากันครับ ข้อดีของคินเท็ตสึเรียลพาส 1. สามารถแวะเที่ยวจังหวัดต่างๆระหว่างทางได้ โดยถ้าคุณอยู่ที่โอซาก้าแล้วอยากไปลงนารา เกียวโต หรือแถบย่านมิเอะซะหน่อย อาจจะไม่ต้องทำใจรออะไรมาก เพราะมันใช้เวลาแต่ละเมืองเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น 2. ดูเส้นทางง่าย แต่ละเส้นทางจะมีแถบสีให้ดูง่ายมากๆว่าเป็นเส้นทางแบบไหน ถ้าเป็นสายสีแดงก็จะไปสุดที่นารา สีเหลืองก็ไปสุดที่เกียวโต หรือถ้าใครจะไปแถบย่านมิเอะ ก็ต้องต่อรถไปอีกเป็นสายสีฟ้า เป็นต้น 3. สามารถหาซื้อได้เป็นบัตรเรียลพาสแบบทั้งวัน ราคาของคินเท็ตสึจะมีความแตกต่างออกไปแต่ละพื้นที่ แต่ก็มีรูปแบบของการซื้อบัตรเหมาทั้งวันได้ด้วย และราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วยอย่างที่คิด ข้อเสียของคินเท็ตสึเรียลพาส 1. ต่อรถหลายขบวน สำหรับคนที่ต้องการจะไปเที่ยวนาโกย่าโดยเริ่มต้นตั้งแต่โอซาก้า อาจจะต้องทำใจหน่อยเพราะคินเท็ตสึเป็นรถไฟที่จะต้องออกนอกเมืองทุกๆ 10-15 นาที และมีชานชาลาเยอะมากๆ ทำให้ถ้าคุณคิดจะนั่งรถไฟสายนี้ ก็จะต้องทำใจกับการหยุดรถจอดป้ายบ่อยๆหน่อย...
Read More
ใกล้เข้าหน้าหนาวกันแล้วในอีกไม่ช้า หลายคนก็คงจะกำลังวางแผนแพ็กกระเป๋าออกไปสู่โลกภายนอกกันแล้ว ซึ่งบางคนก็วางแผนที่จะออกต่างจังหวัด แต่สำหรับบางคนที่วางแผนไปไกลกว่านั้นก็ดูเหมือนจะชื่นชอบการสัมผัสหิมะจางๆหรือบรรยากาศอันหนาวเย็นที่แสนจะโรแมนติกหรือน่าสนุกสนานอย่างเช่นต่างประเทศ ซึ่งทั้งนี้ก็ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจที่ตอบรับความหนาวและน่าไปอย่างหลากหลาย เราไปดูกันครับว่ามีที่ไหนกันบ้าง อูลาน บาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ที่แรกเลยคือเราอยากจะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศแห่งมองโกล ที่เมืองอูลาน บาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ซึ่งเป็นประเทศในย่านแถบจีน แต่มีอากาศความหนาวที่ติดลบได้โหดมาก นั่นก็คือ -40 องศา ในช่วงหน้าหนาวเดือนพฤจิกายน ซึ่งถ้าหากใครที่อยากจะไปสัมผัสความหนาวเย็นและภาพทุ่งหญ้าสวยๆที่ชโลมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนที่อารมณ์ไปอีกแบบก็ควรจะมาที่นี่เลยครับ ซาปา ใครเลยจะรู้ได้ว่า เมืองแห่งออกซิเจนอย่างซาปา ก็มีช่วงหน้าหนาวที่ติดลบจนเป็นหิมะได้ด้วย ซึ่งบรรยากาศของเมืองซาปา ย่านถิ่นชุมชนพื้นเมืองของประเทศเวียดนามก็สามารถเนรมิตหิมะให้ชโลมไปทั่วทุ่งนาได้เหมือนกัน แต่จะเกิดขึ้นรึเปล่าอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงของคุณ เพราะหิมะในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ค่อยจะออกมาเท่าไหร่ แต่สำหรับซาปานั้นก็ยังมีความหนาวที่ถูกใจนักท่องเที่ยวหลายๆคน และมีแนวโนมจะเกิดหิมะได้มากสุดในช่วงมกราคม คุณสามารถเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติในถิ่นใกล้เคียงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกซิลเวอร์ ตรามตอนพาส และหมู่บ้านกัตกัต ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะสวยงามและโรแมนติก ถ้าใครที่ต้องการอยากจะชมหิมะ หรืออยากสัมผัสบรรยากาศหนาวๆก็ติดตามข่าวสารดูครับ ถ้าหากมันเกิดขึ้นก็คงจะสวยงามไม่ต่างจากสวรรค์ในจินตนาการของเราอย่างแน่นอน ฮาบิน ใครก็ตามที่หลงใหลในเทศกาลหน้าหนาวและมีหิมะปกคลุมก็คงจะหลีกหนีไม่พ้นเมืองนี้ นั่นก็คือเมือง ฮาร์บิน ภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่มีอาณาเขตติดกับรัสเซีย โดยหิมะหรือช่วงหน้าหนาวจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม และอาจจะหนักต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วงนั้นจะมีเทศกาลปั้นหิมะหรืองานแกะสลักน้ำแข็งขึ้น งานนี้ใครที่ชอบงานที่จัดในธีมหิมะก็อย่าพลาด ซัปโปโร อีกหนึ่งที่ไม่แพ้กัน สำหรับประเทศที่หลงใหลการจัดงานเทศกาลหิมะหรือน้ำแข็ง ที่จัดประกวดแกะสลักน้ำแข็งทุกปี จนเป็นที่ยอมรับของหลายประเทศทั่วโลก เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่หิมะตกได้สวยงามที่สุดและหนาวที่สุด...
Read More
สำหรับใครที่ต้องการจะหาที่เที่ยวสงบๆในราคางบประมาณ 15000+ ก็ต้องวางแผนกันหน่อย แต่กลับไม่ใช่สำหรับ หมู่บ้าน “ชิราคาวาโกะ” หมู่บ้านที่เรียกได้ว่าติดอันดับสถานที่ที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งนี้หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหมู่บ้านอันสวยงามแห่งนี้ และยังไม่รู้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงเรื่องราวและที่มาของ หมู่บ้านชิราคาวาโกะกันครับ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) จัดเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าและเก่ามากในญี่ปุ่น ถือว่าเป็นสถานที่ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากและเป็นที่น่าจับตามองของนักท่องเที่ยวมากๆด้วย โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหลั่งใหลกันเข้ามาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เพราะมันมีบรรยายกาศที่แสนสดชื่นและสบายนั่นเอง หมู่บ้านแห่งนี้เดิมทีเป็นหมู่บ้านของชนชั้นชาวนาที่อาศัยอยู่แหล่งแม่น้ำโชกาวะ ซึ่งพืชไร่จะอุดมสมบูรณ์และเขียวขจีมากๆในช่วงหน้าอากาศแจ่มใส หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านที่อยู่เขตจังหวัดกิฟูและโทยาม่า มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี และมีสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ดูสวยงาม คลาสสิก และมีสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นสูง จนทำให้ได้รับจารึกว่าเป็นสถานที่มรดกโลกและในญี่ปุ่นไปโดยปริยาย มาเที่ยวอย่างไร โดยส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวมักจะเริ่มต้นเส้นทางตั้งแต่ ทาคายาม่า เป็นหลัก เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากจังหวัดทาคายาม่าเท่าไหร่นัก ทำให้ผู้คนมักจะมาเริ่มต้นที่จุดนี้ก่อนอยู่เสมอ แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาต่อที่ทาคายาม่า ก็สามารถเริ่มต้นที่จังหวัดนาโกย่าได้เลย มีบริการรถทัวน์และรถบัสไปยังหมู่บ้านได้ง่ายๆสบายๆครับ หรือถ้าใครเริ่มต้นจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็ต้องอดทนหน่อย เพราะจะต้องนั่งรถไฟต่อมาลงที่ทาคายาม่าอยู่ดี พักที่นี่ได้มั๊ย คำตอบคือไม่ได้โดยตรง แต่สามารถพักบริเวณแหล่งใกล้เคียงได้ ซึ่งหลักๆก็จะมี Kanja Guesthouse เก็สเฮาส์ของหมู่บ้านที่อยู่ติดกับบ้านชิราคาวาโกะเลย ซึ่งราคาก็ตกคืนละ 2000-3000 บาท ครับ ควรมาช่วงไหนดีที่สุด หมู่บ้านชิราคาวาโกะ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตลอดปี ซึ่งก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป แต่หลักๆที่คนมาเที่ยวเยอะที่สุดก็คือ ช่วงหน้าหิมะและช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...
Read More
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศท่องเที่ยวและเต็มไปด้วยอะไรดีๆมากมายอย่าง มาเก๊า จะมีค่านิยมที่หลายคนมองว่าเป็นประเทศแห่งคาสิโนไปซะอย่างนั้น เนื่องด้วยจากที่ศูนย์กลางของประเทศเป็นแหล่งรวมย่านคาสิโนชื่อดังที่ติดอันดับโลก แถมยังเป็นหน้าเป็นตาดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันหลั่งใหลเข้ามาที่ประเทศนี้ปีละล้านๆคนอีกต่างหาก นั่นจึงเป็นส่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทำไมมาเก๊าถึงขึ้นชื่อเรื่องคาสิโนมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามๆที่ควรจะเชิดชูไว้ วันนี้ทาง LifePro Travel จะมาบอกเรื่องน่ารู้ของมาเก๊า ที่ไม่ได้มีดีแค่คาสิโนกันครับ 1. ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล คือแลนมาคด์ของจริง เรามาดูที่อันดับแรกกันก่อนเลยคือ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ซึ่งถือเป็นหนึ่งไฮไลท์ชั้นนำที่ถ้านักท่องเที่ยวมาเหยียบลงมาเก๊าแล้วไม่ได้มาที่แห่งนี่ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าใครที่คิดว่าคาสิโนเป็นสถานที่แลนมาคด์ล่ะก็ ถือว่าคุณคิดผิดครับ ยังไงก็ต้องมาถ่ายรูปที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปจุดเช็คพอยด์ต่อไป นอกจากนั้นรอบๆข้างสถานที่ ประตูโบสถ์เซนต์ปอล ก็ยังมีของขายน่าสนใจและอาหารอร่อยๆให้คุณได้ช็อปปิ้งอีกด้วย 2. เมืองเวนิสแห่งเอเชีย ใครเลยจะรู้ว่า มาเก๊ามีอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจและน่าไปถ่ายรูปเอามากๆ นั่นก็คือ The Venetian เมืองเวนิสแห่งเอเชียนั่นเอง ซึ่งในที่นี้ก็จะมีแหล่งของขายระดับสากลและสถานที่แยกย่อยข้างในที่สวยงาม แถมยังมีบริการล่องเรือพร้อมให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราไปนั่งชมเมืองเวนิสสวยๆให้พักผ่อนหย่อนใจเล่นกันอีกต่างหาก 3. มา มาเก๊า ต้องกินทาร์ตไข่ ทาร์ตไข่ นับเป็นขนมซิกเนเจอร์ที่เราควรซื้อกินหรือห่อติดกลับประเทศอย่างมาก (ถ้าบินกลับในตอนเช้า) เพราะที่มาเก๊า จะขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มกรอบของทาร์ตไข่ และความหวานหอมที่ทาร์ตไข่บ้านเรายังเทียบไม่ได้เลยเชียวล่ะ 4. สถานที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเค้าโครงจีนนัก ถ้าคุณลองไปแล้วลองสังเกตตึกหรือสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้ว คุณจะแอบสงสัยว่าตึกรูปทรงต่างๆมักจะมีการดีไซต์ที่เหมือนกับยุโรปมากกว่าจีน ทั้งๆที่มันเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายประเทศจีนด้วยซ้ำ ซึ่งเหตุผลหลักก็คือที่นี่เคยได้รับอิทธิพลจากทางฝั่งยุโรปมาก่อน เมื่อกาลเวลาผ่านไป เกาะมาเก๊าได้รับอิสรภาพ จึงทำให้สามารถรวมเป็นประเทศได้และยังคงรูปลักษณะของสถานที่สไตล์ยุโรปเอาไว้เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวนั่นเอง...
Read More
ในที่สุดก็ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับแผนการสร้างสวนสนุก Universal Studios สาขาปักกิ่ง เพื่อเอาใจคนรักผลงาน Universal ในแดนมังกร เนื่องจากทางผู้สร้างเล็งเห็นถึงอัตราเม็ดเงินและช่องทางที่จะหลั่งใหลเข้ามา โดยจะมีการสร้างพื้นที่ทั้งหมดกว่า 400 hectares หรือประมาณ 1000 acre (2500+ ไร่) นับว่าเป็นสวนสนุกที่กำลังจะกลายเป็นสวนสนุกที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับ 2 ของโลก และจะกลายเป็น Universal Studios ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแซงหน้าสาขาของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย โดยสวนสนุก Universal Studios สาขาปักกิ่ง มีแผนโครงการก่อสร้างไว้แล้วในเขต Tongzhou กรุงปักกิ่ง ซึ่งจะมีแผนทำรีสอร์ทเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วโลกด้วย แถมยังมีการสร้างแหล่งช็อปปิ้งและสวนสนุกมากมายเอาให้คุณอยู่ได้อย่างจุใจทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังมีโครงการที่จะสร้างโซนสวนสนุกเพิ่มขึ้นอีกเพื่อพัฒนาแผนการตลาดและวางคอนเซ็ปหนังดังต่างๆเอามาไว้ในสวนสนุกแห่งนี้ เหมือนอย่างเช่น JAW นั่นเอง โดยสวนสนุก Universal Studios สาขาปักกิ่ง จะยังคงรูปแบบของสวนสนุกคล้ายคลึงกับของทางญี่ปุ่นเลย โดยเปรียบเสมือนยกสวนสนุกจากญี่ปุ่นมาไว้ที่ปักกิ่งยังไงยังงั้น แต่แถมพ่วงมาด้วยนรีสอร์ทขนาดใหญ่ 2 แห่งเพื่อความเรียบหรูและที่พักเพื่อความสนุกของเหล่าผู้ที่อยากมาเที่ยวจากทั่วโลกนั่นเองโดยโครงการนี้จะมีแผนเปิดให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2021 แต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะเป็นวันไหน ยังไงแฟนๆ Universal Studios ก็อย่าพลาดติดตามชมกันได้และสามารถเข้าไปชมภาพรายละเอียดของ Universal Studios...
Read More
1 2 3