หลายคนอาจจะเคยมองเส้นทางหรือสถานที่ในฝันของคนรักทะเลอย่าง มัลดีฟส์ ทะเลที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งสำหรับคนอย่างเราๆอาจจะมองมันเป็นเพียงแค่ในฝันเท่านั้น ไม่มีทางเป็นจริงได้ เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่มีมูลค่าและมีราคามากต่อการไปเที่ยว 1 ครั้ง อีกทั้งหากจะไปเราก็จำเป็นต้องจองทัวน์หรือเอเจอนซี่เท่านั้น ซึ่งแต่ละเอเจนซี่ก็จะมีการลดหย่อนราคาหรือเสนอกิจกรรมดำนำที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป
แต่โดยอันที่จริงแล้ว พวกคุณมักติดภาพกับความสวยหรูของโรงแรมกลางน้ำ กิจกรรมอันสุดแสนโรแมนติก ซึ่งหากคุณลแงมองอีกมุมหนึ่ง มัลดีฟส์ ไม่จำเป็นต้องไปนอนที่พักกลางน้ำเสมอไปครับ ในที่นี้แล้ว ทาง LifePro Travel จะมาอัพเดทเรื่องราวของมัลดีฟส์ที่พวกคุณอาจยังไม่รู้กันครับ
1. มัลดีฟส์ไปไม่ยาก
หลายอาจจะยึดติดว่าสถานที่อันสวยหรู จะต้องมีราคาแพงมาก ต้องไปยากแน่นอน งานนี้ LifePro Travel ขอบอกว่า “จริงครับ” แต่จริงแค่บางส่วนเท่านั้น โดยเฉพาะมัลดีฟส์ ที่ตอนนี้มีการเปิดสายการบินราคาถูกอย่าง AirAsia ที่จัดโปรแทบทุกเดือน จนคุณสามารถจองตั๋วเที่ยวบินไปกลับได้ไม่ถึง 8,000 บาท ด้วยซ้ำ ตกรอบละ 4,000 บาท
2. มัลดีฟส์มีที่พักตกคืนละไม่ถึง 2,000 บาท
เป็นไปได้เหรอที่สถานที่สุดสวยขนาดนั้นจะมีที่พักราคาย่อมเยาว์ “มีครับ” เพราะที่พักที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปพักกันก็คือ เกาะ “มาฟูชิ” ซึ่งมีที่พักตกคืนละ 1,000 ไปจนถึง หลักหมื่นเลยทีเดียว อีกอย่างคนมัลดีฟส์อัธยาศัยดีมากด้วยครับ
3. ทัวน์ดำน้ำแพง
ขอบอกว่า ไม่จริงครับ เพราะไปสัมผัสมาแล้ว หากเป็นทัวน์ดำน้ำเต็มวันก็อาจจะตกคนละ 50 – 60 ดอลลาร์ ยิ่งเราไปเที่ยวกันเยอะเป็นแบบกรุ๊ป ยิ่งลดค่าหัวมากเข้าไปอีกครับ บางคนอาจจะมองว่า 50 ดอลลาร์ แพงจัง ขอย้ำว่าทัวน์นี้คือทัวน์เต็มวันนะครับ และสถานที่ที่ไปก็ไม่ใช่ธรรมดา ขอบอก
4. ไปเกาะมาฟูชิ ต้องนั่งสปีดโบทเท่านั้น
งานนี้ LifePro Travel ไปลองมาแล้ว ไม่จริงครับ เพราะในเมืองหลวงมาเล่ของประเทศมัลดีฟส์นั้น มีท่าเรือไปเกาะมาฟูชิอยู่ครับ สามารถนั่งแท็กซี่ไปได้เลยราคาแค่ไม่กี่ดอลลาร์เอง จากนั้นก็จองตั๋วเรือเฟอร์รี่ได้ ราคารอบละ 2 ดอลลาร์ แต่ข้อเสียก็คือ จะค่อนข้างเมาเรือง่ายและเหม็นกลิ่นควันเรือเล็กน้อย
5. ไปมัลดีฟส์ด้วยตัวเองต้องพกปลั๊กของที่นั่นไปด้วย
จริงๆแล้ว หากเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามเป็นธรรมดา เพราะปลั๊กของมัลดีฟส์จะเป็นหัวเหลี่ยมเหมือนกับของฮ่องกง แต่สมัยนี้เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก ทางโรงแรมของแต่ละเกาะก็เลยปรับรูที่เสียบปลั๊กเป็นแบบสากลแล้วครับ
6. หน้าฝนของมัลดีฟส์
ความจริงแล้ว สำหรับใครที่จะไปเที่ยวมัลดีฟส์ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องฝนเลย เพราะที่นั่นเรียกได้ว่าเป็นเขตร้อนลมทะเลคล้ายๆภาคใต้บ้านเรา เพราะฉะนั้นหากมีลมฝนเข้ามา ก็ตกแค่แปปเดียวครับ
7. อย่าคิดว่าจะได้กินซีฟู๊ด
งานนี้ LifePro Travel ไปสัมผัสมา แทบไม่เจออาหารทะเลเลย เพราะคนพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับประทาน แถมทะเลมัลดีฟส์ก็ถือเป็นทะเลที่มีแต่เต่ากับปลาที่สวยงามเท่านั้น ไม่เหมือนทะเลของเราที่อุดมไปด้วยสัตว์ทะเลที่สามารถรับประทานได้ เพราะฉะนั้นหากใครที่คิดจะไปมัลดีฟส์และสัมผัสกับซีฟู๊ดก็อาจต้องทำใจนิดๆครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ในร้านที่เสิร์ฟอาหารจำพวกนี้โดยเฉพาะเท่านั้น
8. มัลดีฟส์มี ฟาสฟู๊ดเยอะมาก
ที่เกาะมาฟูชิอันแสนห่างไกล ส่วนใหญ่มักจะมีเป็นร้านที่ขายของจำพวกแฮมเบอร์เกอร์กับพิซซ่ามากกว่า ไม่รู้ทำไม
9. มัลดีฟส์มีมาม่าต้มยำกุ้ง
อันนี้ถือเป็นเรื่องพีคสำหรับเราเลย เพราะที่นั่นรับสินค้าของไทยไปขายที่นั่นด้วย แต่ไม่ใช่ยี่ห้อมาม่า แต่เป็นยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นที่ กาญจนบุรี
10. หากเราเก็บทรายที่นั่นกลับบ้าน ชาวมัลดีฟส์จะแปลกใจทันที
อันนี้ผมคิดจะเก็บทราบสีขาวนวล ซึ่งเป็นทรายที่พวกเขาเดินเหยียบกันประจำอยู่แล้ว เป็นที่ระลึก พอเขาเห็นเท่านั้นแหละ รีบอุทานขึ้นมาทันที และพูดว่า “เอากลับไปทำไม”